คาสิโนเกมส์ทิปส์, ออนไลน์คาสิโนไกด์, ข่าวฟุตบอล

ไม่รู้จะเรียกว่าเป็นการคืนฟอร์มได้เต็มปากหรือเปล่างานนี้สำหรับทางด้านของหงส์แดง ลิเวอร์พูล ยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อเป็นฝ่ายบุกไปเฉือนเอาชนะจิ้งจอกสีน้ำเงิน เลสเตอร์ ซิตี้ แบบชนิดหืดจับได้ในเกมลีกสัปดาห์ล่าสุด

หลังก่อนหน้านั้นฟอร์มบู่หาชัยชนะไม่เจอมาสี่เกมติดรวมทุกรายการ ทั้งยังแพ้ไปถึงสองเกมด้วย ทำให้ทีมของ กุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ กลับขึ้นมาอยู่ในกลุ่มท็อปไฟว์ได้อีกครั้ง

ทั้งนี้เร้ดแมชชีนต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบากมาตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานับตั้งแต่พวกเขาบุกพ่ายให้กับเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ แบบขาดลอยด้วยผลบอลถึง 5-0

โดยสามเกมถัดจากนั้นพวกเขาหาชัยชนะไม่เจอเลยแบ่งเป็นการเสมอกับ เซบีญ่า ใน แชมเปี้ยนส์ลีก เสมอกับ เบิร์นลี่ย์ ในลีก และพ่ายแพ้ให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในรายการถ้วยคาราบาวคัพ

ทำให้ก่อนเกมบุกรังคิงพาวเวอร์สเตเดี้ยมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ถูกมองว่าไม่ได้เหนือไปกว่าเจ้าบ้านสักเท่าไหร่ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นเกมที่นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องพยายามพาลูกทีมคว้าชัยชนะเพื่อกู้ศรัทธาจากแฟนบอลให้ได้

สำหรับการจัดตัวผู้เล่นทีมเยือนยังมาในชุดหลักเดิม มีสามประสานแนวรุกเป็นโมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, และฟิลิปเป้ คูตินโญ่ สามประสานมิดฟิลด์เป็น จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และเอ็มเร่ ชาน

อย่างไรก็ตามเมื่อเกมเริ่มคิกออฟขึ้นหงส์แดงทำได้ดีกว่าที่หลายคนคาด เป็นฝ่ายทำประตูออกนำทีมเจ้าบ้านไปก่อนถึง 2-0 จาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) ในนาทีที่ 15 ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ นาที 25

ทว่าจากนั้นเจ้าบ้านมาตีไข่แตกไล่มาเป็น 2-1 ได้จาก ชินจิ โอกาซากิ ในนาที 45 และแม้ว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะมาบวกผลบอลให้ทีมเยือนหนีห่างอีกครั้งเป็น 3-1 ในนาที 68 แต่จิ้งจอกสีน้ำเงินก็ยังทำให้พวกเขาต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดเมื่อมาได้ประตูไล่มาเป็น 3-2 จาก เจมี่ วาร์ดี้ ในนาทีถัดมา ทั้งยังได้โอกาสทองที่จะตีเสมอได้จากจุดโทษในนาที 73 แต่ วาร์ดี้ กลับยิงไปติด เซฟซิมง มิโญเล่ต์

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah)
Credit: Marco Iacobucci EPP / Shutterstock.com